เลือกสีทาบ้านแบบไหน…ไม่เจ็บใจทีหลัง..?

เลือกสีทาบ้านแบบไหน…ไม่เจ็บใจทีหลัง

เลือกสีทาบ้านแบบไหน…ไม่เจ็บใจทีหลัง

เลือกสีทาบ้านแบบไหนไม่เจ็บใจทีหลัง..?

         สีทาบ้าน นอกจากความสวยงามของเฉดสีที่คุณเลือกนั้น ยังไม่เพียงพอ เลือกผิดประเภท ผิดงาน ผิดแบรนด์ ก็อาจช้ำใจในภายหลังได้นะ เอ…แล้วจะเลือกอย่างไรดี เพราะมาดูในโฆษณาทีวี แต่ละแบรนด์ชูจุดขายแบบเอาเป็นเอาตายทั้งนั้นเลย ผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองเลือกถูกหรือผิด เรื่องสำคัญๆที่ท่าน ควรจะทราบเรารวมมาไว้ในที่นี้แล้ว แค่ศึกษาอีกนิด ท่านจะเข้าใจได้ง่ายๆ แล้วท่านจะรู้ว่าเรื่องสีไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด

สิ่งที่เราจะไม่กล่าวถึงในบบทความนี้คือ สีที่ใช้กับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เช่น โรงงานต่อเรือเดินสมุทร โรงงานประกอบรถยนต์ เป็นต้น เพราะคิดว่า ท่านคงไม่ได้ใช้ อย่างแน่นอน สีที่ใกล้เคียงชีวิตประจำวันมากที่สุด น่าจะเป็นสีทาบ้าน

มีข้อที่ท่านต้องพิจารณาคือ

ทาภายนอกหรือทาภายใน..?

ทาปูนหรือไม้..?

ทาปูนเก่าหรือใหม่..?

สภาพสีเดิมเป็นอย่างไร..?

งบประมาณที่ท่านมีขนาดไหน..?

เป็นต้น

ศัพท์ที่ท่านควรรู้เบื้องต้น

ปูนเก่า หมายถึง พื้นผิวประเภทปูนซีเมนต์ ที่เคยผ่านการทาสีมาแล้ว เช่น บ้านเก่ามีการทามาแล้วหลายรอบ หลายสิบปีมาแล้ว

ปูนใหม่ หมายถึง พื้นผิวประเภทปูนซีเมนต์ที่ท่านเพิ่งจะก่อฉาบเสร็จใหม่ๆ ไม่เคยผ่านการทาสีมาก่อนเลย

ทาภายใน หมายถึง ทาสีภายในตัวอาคารหรือบ้านพักอาศัย

ทาภายนอก หมายถึง  ทาสีภายนอกอาคาร ซึ่งสีจะถูกสัมผัสโดยตรงกับ ความร้อน แสง รังสี ฝุ่น ควัน และสิ่งแวดล้อมอื่นๆ

สีน้ำมัน เป็นสีที่ นิยมใช้กับงานทาไม้ ทาเหล็ก  สีชนิดนี้จะนำน้ำหรือทินเนอร์มาเป็นตัวทำละลาย มี2 แบบคือ สูตรน้ำมันและสีน้ำ (ผสมด้วยน้ำ)

สีน้ำพลาสติก หมายถึงสีที่ใช้กับงา่นปูน มีทั้งแบบใช้ทาภายนอกและภายใน

ในบรรดาทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สีที่สำคัญและท่านต้องเลือกให้ดีคือ สีทาภายนอก เพราะสีที่ดีจะช่วยป้องกันสภาพอากาศที่อยู่ภายนอก เช่น กันแดด กันฝน กันเชื้อรา กันตะไคร่น้ำ กันความเป็นกรด-ด่างต่าง ซึ่ง เราควรให้ความสำคัญกับการเลือกสีอะคริลิคสำหรับทาภายนอกมากที่สุด เพราะถ้าเลือกไม่ได้เราอาจจะต้องทาสีบ้านใหม่บ่อยๆ เพราะสีทีไม่มีคุณภาพจะหลุดลอกออกมาง่ายมาก เหม็น ไม่ทน ไม่คุ้มเงินแน่นอน

 

จะเลือกสีทาภายนอกแบบไหนดีละ..?

อย่างที่กล่าวข้างต้น สีทาภายนอกต้องเผชิญกับทุกสภาพแวดล้อมอย่างหนักหน่วงดังนั้น ท่านต้องเลือกให้ทน ให้ดีที่สุด ถ้าเลือกดี สีจะอยู่กับท่านนานนับ 10 ปีเลยทีเดียวมาดูข้อคุณสมบัติที่ดีๆ ที่สีทาภายนอกต้องมี

ต้องยึดเกาะดีเยี่ยม

ต้องทนต่อรังสี ไม่หลุดร่อนง่าย

ต้องขัดทำความได้ ง่ายด้วย

น้ำไม่ซึมผ่าน ป้องกันความชื้นได้ด้วย

ต้องสามารถปิดรอยร้าวรอยรั่วแตกลายงาได้

ต้องไม่เหม็น ไม่เป็นผงติดเสื้อผ้า

มีสารป้องกันเชื้อราด้วย

ต้องทนต่อทุกสภาพอากาศ ทั้งร้อน เย็น ฝน หนาว เปียก แห้งและอื่นๆ

 

จะเลือกสีทาภายในแบบไหนถึงจะดีละ..?

ทาภายในนั้นส่วนใหญ่จะเน้นสวยงาม สีเนื้อละเอียด เรียบ ทนทาน ไม่มีกลิ่น ขัดทำความสะอาดได้ ไม่มีกลิ่นไอระเหยออกมา ป้องกันคราบหมองคล้ำจากเชื้อราได้

 

สีมีกี่เกรด..?

มี 4 เกรด คือ A B C และ D

A จะแพงสุดและดีสุด มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% มาจากยุโรป

B  มีส่วนผสมของอะคริลิค 100% ผลิตในเอเชีย

C  มีส่วนผสมของอะคริลิค 70% อื่นq 30%

D  เกรดต่ำสุด มีสารอื่นๆปนในสีมากกว่า 30%

 

จะเลือกแบบไหนดี..?

ราคาสีจะสัมพันธ์กับเกรด ดังนั้นเลือกตามงบที่ท่านสะดวกจ่าย เช่นต้องการคุณภาพสูงๆ ทนทานเป็น 10 ปี แนะนำท่านเลือกเกรด A ไปเลยกลางๆ หน่อยก็  C หรือ B

ทาสีอย่างไรให้ทนทาน

สีที่ดีกลิ้งครั้งเดียวเนื้อสีจะติดง่ายลื่นมี ไม่ต้องซ้ำมาก เนื้อเนียน เคล็ดลับไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน อยู่ที่การเตรียมพื้นผิวก่อนทาและเกรดสี ทำงานร่วมกัน ถ้าท่านเตรียมพื้นผิวดี แต่สีเกรดต่ำ ก็ไม่ทนอยู่ดี ทางออกคือ พื้นผิวต้องดี

พื้นผิวต้องดี อย่างไรถึงเรียกว่าดี..?

ไม่ชื้น ไม่มีตะไคร่ ไม่ลื่น ไม่มีไขมัน ไม่มีรอยแตกร่อน ไม่มีฝุ่นละอองเกาะ การทาที่ดีควรทา 2-3 ชั้นพอ ไม่ควรเกนิ5 ชั้น เพราะทาเยอะ ท่านจะเปลืองและหนาเกินไป

เลือกสีทาบ้านที่ไหนจะสบายกระเป๋าละ…?

แนะนำซื้อสีจากร้านที่น่าเชื่อถือ ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านวัสดุก่อสร้างโมเดิร์นเทรดแบรนด์เนมต่างๆก็ได้  เป็นไปได้เลือกร้านที่มีผู้ช่วยแนะนำการขาย ลองศึกษาเปรียบเทียบ หาข้อมูลก่อนการตัดสินใจได้ซื้อ ท่านจะได้สินค้าชนิดเดียวกันแต่ประหยัดกระเป๋ากว่าก็ได้

 

การเลือกสี,การทาสี,การทาสีที่ดี,ประเภทสีทาบ้าน,การทีสีทาบ้าน,เลือกสี